จะสร้างลูกให้จิตใจแข็งแกร่งจง ”หยุดทำ” ทำสิ่งเหล่านี้ ⚡️⚡️
สร้างลูกให้จิตใจแข็งแกร่ง พ่อแม่หลายคนคิดว่าคือการสร้างเด็กที่ไม่เคยร้องไห้ 😭 ไม่แสดงออกถึงความเศร้า หรือไม่เคยยอมรับความล้มเหลว เด็กบางคนเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งได้แบบนั้น แต่ในขณะที่บางรายกลายเป็นเด็กเก็บกดและมีปัญหาทางจิตใจในอนาคต กลับกันความแข็งแกร่งทางจิตใจในเด็กควรจะเป็นการที่เด็กพร้อมจะลุกกลับขึ้นมาสู้ หรือจัดการกับอารมณ์ต่างๆได้ด้วยความรวดเร็วมากกว่าแม้บางครั้งจะร้องไห้จะสงสัยในตัวเองบ้างแต่ก็ไม่เคยท้อแท้
พ่อแม่เองก็เป็นแบบอย่างที่สำคัญที่จะทำให้ลูกเติบโตขึ้นมาอย่างแข็งแกร่ง และนี้คือ 9 สิ่งที่พ่อแม่ “ไม่ควร” จะทำให้ลูกเป็นแบบอย่างให้ลูกในวัยเด็ก
1) ไม่เลี้ยงลูกด้วยความรู้สึกผิด 🐣
อย่าให้ความรู้ผิดต่อลูกมาทำให้ต้องตามใจลูกเกินความจำเป็น พ่อแม่ที่ไม่มีเวลาให้ลูก มักจะพยายามเอาใจลูกเกินไป เมื่อโตขึ้นเค้าอาจจะกลัวความรู้สึกผิด, กลัวที่เพื่อนจะไม่รักจึงตามใจเพื่อน ยกตัวอย่างเช่น “ให้เราลอกการบ้านนะ ไม่งั้นเราก็ไม่ใช่เพื่อนกัน” “ไม่รักเราเหรอ ถ้ารักเราก็โดดเรียนไปด้วยกันซิ” พ่อแม่ต้องชัดเจนเพื่อสอนลูกไม่เอาอารมณ์รู้สึดผิดมาทำใช้ในการตัดสินที่ผิดๆ
2) เลี้ยงลูกเป็นศูนย์กลางของจักรวาล 🚀
พ่อแม่ทุกคนพร้อมทำทุกอย่างเพื่อลูกอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณทำทุกอย่างในชีวิตให้ลูกไปทั้งหมดโดยที่เค้ารู้ตัว เค้าจะโตขึ้นโดยควาหวังว่าคนรอบตัวควรจะดูแลตามใจเค้า กรณีนี้มักเกิดในลูกคนเดียวและยิ่งถ้ามีปู่ย่าตายายช่วยเลี้ยงแล้วด้วยละก็จะยิ่งแล้วใหญ่เลย เราควรจะบอกทุกคนที่ช่วยเลี้ยงให้ระวังจุดนี้
3) ปล่อยให้ความกลัวมามาครอบงำ 🙉
พ่อแม่ทุกคนห่วงความปลอดภัยของลูก แต่การปกป้องเด็กมาเกินไปจะทำให้เค้ารู้สึกกลัวสิ่งต่างๆรอบตัว สอนให้ลูกออกไปทำ
สิ่งที่กลัวด้วยความระมัดระวัง อย่าให้ลูกนั่งอยุ่แต่ในโซนปลอดภัยหรือ comfort zone จนกลายเป็นเด็กที่ไม่กล้าทำอะไรท้าทายเลย
4) คาดหวังความสมบูรณ์แบบ 🌈
การผลักดันให้ลูกทำให้ได้ดีที่สุดนั้นถูกต้อง แต่การคาดหวังให้ลูกทำได้เฟอร์เฟ็คทุกครั้งและทุกเรื่องเป็นไปไม่ได้และไม่ควรทำ พ่อแม่ต้องสอนให้ลูกรู้จักที่จะล้มเหลว คนๆนึงไม่เสร้างเก่งไปได้ทุกเรื่องหรอก เด็กแต่ละคนมีจุดเด่นของตัวเองและไม่จำเป็นต้องไปเปรียบเทียบกับคนอื่น
5) สอนให้ลูกหนีจากความรับผิดชอบ 🏫
เด็กมีความรับผิดชอบอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการตื่นเช้าไปโรงเรียนทุกวัน การทำเวรความสะอาดห้องเรียน พ่อแม่ไม่ควรช่วยลูกหลบหลีกจากสิ่งเหล่านี้ ไม่ว่าการขอลาหยุดโรงเรียนโดยไม่จำเป็นบ่อยๆ หรือไม้ให้ลูกร่วมในกิจกรรมต่างๆ เพื่อที่จะให้เค้าโตขึ้นมาเป็นคนที่มีความรับผิดชอบต่อสังคมและได้รับการยอมรับจากสังคม
6) ปกป้องลูกจากความเจ็บปวด 🤕
ความเศร้าความผิดหวังเป็นส่วนนึงของชีวิต การปล่อยให้ลูกเรียนรู้ความรู้สึกและสอนวิธีรับมือให้กับเค้านั้นสำคัญ อย่าพยายามหลอกหรือหาวิธีให้เค้าหลีกเลี้ยงความรู้สึกที่เค้าหลีกเลี้ยงไม่ได้แน่นอนในอนาคต และถ้าไม่จำเป็นอย่าเข้าไปปลอบลูกมากเกินไป ปล่อยให้โอกาสเค้าฝึกฝนกับการจัดการอารมณ์ตัวเองดู
.
7) ไม่ปล่อยให้ลูกทำผิดพลาด 🥺
การสอนการบ้านแบบไม่เคยยอมให้ทำผิด การตรวจกระเป๋าลูกทุกเช้าเพราะกลัวเอาหนังสือเรียนไปไม่ครบ สิ่งเหล่านี้ที่คุณทำอยู่ไม่ได้เป็นประโยชน์เลย ลูกควรจะเรียนรู้ถึงผลจากการทำผิดพลาดด้วยตัวเองเค้าเอง เพื่อที่จะสอนให้เค้าระมัดระวังและมีความรับผิดชอบในการกระทำของตัวเองในอนาคต
8) ใช้ทางลัดให้ตัวเองสบายขึ้น 🛣
การยอมให้ลูกเล่นโทรศัพท์เมื่อเค้างอแง หรือการช่วยลูกทำการบ้านเพราะไม่อยากรอนาน แน่นอนสิ่งเหล่านี้จะทำให้ชีวิตคุณง่ายและเร็วขึ้น แต่จะสร้างนิสยแย่ๆให้ลูกในอนาคต จงทำตัวเองให้เป็นตัวอย่างในการอดทนและการพยายาม ไม่พยายามหาทางออกง่ายๆเพื่ออกจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก เพื่อที่จะสอนให้ลูกไม่ยอมแพ้อะไรง่ายๆ
9) ทำให้ชีวิตตัวเองไม่มีคุณค่า 🤧
ทำให้ชีวิตมีความหมาย ไม่ใช้ชีวิตทำงานหาเงินไปวันๆ หาเวลาพาลุกออกไปเที่ยวบ้าง สอนให้ลูกรู้จักมองหาความสุขในชีวิต พยายามทำกิจกรรมที่มีความหมายต่อตัวเองและครอบครัว เมื่อลูกเรียนรู้ที่จะทำให้ชีวิตมีความหมาย ความผิดหวังและความเศร้าก็จะไม่สามารถทำร้ายเค้าได้นาน เพราะเค้าจะทำให้ชีวิตตัวเองกลับมามีคุณค่าขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว
ขอขอบคุณเพจ Namjai Painai
เข้าชม : 1202
|